Darkest Hour
คำนำหน้า รีวิวหนัง Darkest Hour
ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ “Darkest Hour” เป็นภาพยนตร์ที่พาเราย้อนกลับไปเมื่อปี 1940 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการตัดสินใจที่ยากลำบากของนายกรัฐมนตรีวินสตัน เชอร์ชิลล์ ที่ต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกที่อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตของประเทศอังกฤษและโลกทั้งใบ
รายละเอียดนักแสดง
- Gary Oldman รับบทเป็น Winston Churchill
- Kristin Scott Thomas รับบทเป็น Clemmie Churchill
- Ben Mendelsohn รับบทเป็น King George VI
- Lily James รับบทเป็น Elizabeth Layton
- Stephen Dillane รับบทเป็น Viscount Halifax
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDB: 7.4/10
คะแนน Rotten Tomatoes: 84% (Tomatometer), 77% (Audience Score)
สรุปเนื้อหา
“Darkest Hour” เริ่มต้นด้วยการที่วินสตัน เชอร์ชิลล์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาที่อังกฤษกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติจากการรุกรานของนาซีเยอรมนี ภาพยนตร์นำเสนอความท้าทายที่เชอร์ชิลล์ต้องเผชิญ ทั้งการต่อต้านจากกลุ่มการเมือง การออกคำสั่งที่เสี่ยงต่อชีวิตของประชาชน และการตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคตของชาติ ในขณะที่เขาต้องพึ่งพาความเชื่อมั่นในตัวเองและการสนับสนุนจากคนรอบข้างเพื่อทำให้ประชาชนมีความหวัง
หนึ่งในฉากที่น่าประทับใจคือการที่เชอร์ชิลล์ต้องตัดสินใจว่าจะเจรจากับนาซีเยอรมนีหรือจะต่อสู้ต่อไป แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้เขายอมแพ้ แต่เชอร์ชิลล์ได้เลือกที่จะสู้ต่อ เมื่อเขาออกไปยังสถานีรถไฟและพูดคุยกับประชาชน เขาสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้อย่างมาก
การแสดงของ Gary Oldman ในบทเชอร์ชิลล์ถือว่าเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมและได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก เขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์และความซับซ้อนในตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง โดยภาพยนตร์ยังมีการใช้เทคนิคการถ่ายทำและการออกแบบฉากที่สวยงาม สร้างบรรยากาศที่สมจริงในยุคสงคราม
ในสรุป “Darkest Hour” เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เพียงแต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงความกล้าหาญและการตัดสินใจที่ยากลำบากในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของชาติ หากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสร้างแรงบันดาลใจ “Darkest Hour” คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด
สำหรับคนที่สนใจสามารถอ่าน รีวิวหนังออนไลน์ เพิ่มเติมได้ที่นี่